ขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตขับขี่ หลายท่านคงอยากได้คำตอบกับการสอบใบขับขี่แบบใหม่นี้ เราควรเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง เพียงแค่สละเวลาเข้ามาอ่านสักนิด เริ่มที่สิ่งที่ผู้สอบใบขับขี่ควรรู้และต้องเตรียมตัวก่อนเข้าสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่ ดังต่อไปนี้
1.คุณสมบัติผู้สอบใบอนุญาตขับขี่
นอกจากนี้แล้ว คุณสมบัติขอผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่ควรมีความรู้ความสามารถในการขับรถ ปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเห็นว่าไม่สามารถขับรถได้ ไม่มีโรคประจำตัวที่ก่อให้เกิดอันตรายในขณะขับรถ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
2.เอกสารประกอบทำใบอนุญาตขับขี่
ชนิดใบขับขี่ เอกสารหลักฐาน
ขอรับใบขับขี่ชนิดชั่วคราว (ขอใหม่)
1. บัตรประชาชนฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
2. ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 30 วัน)
ขอรับใบขับขี่รถส่วนบุคคล(เปลี่ยนชนิดชั่วคราวเป็นชนิด 5 ปี)
*ยื่นก่อนใบขับขี่หมดอายุได้ไม่เกิน 60 วัน
1. บัตรประชาชนฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
2. ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 30 วัน)
3. ใบขับขี่เดิมชนิดชั่วคราว (ที่ยังไม่หมดอายุ พร้อมสำเนา แล้วแต่กรณี)
ขอต่อใบขับขี่รถส่วนบุคคล(ต่อ 5 ปี เป็นชนิด 5 ปี)
*ยื่นก่อนใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 90 วัน
1. บัตรประชาชนฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
2. ใบขับขี่เดิม (หรือใบแทน)
ขอรับใบขับขี่ระหว่างประเทศ
1. บัตรประชาชนฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
2. หนังสือเดินทาง เล่มที่ใช้ในการเดินทาง ประวัติหน้าที่แก้ไขฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
3. ใบขับขี่รถส่วนบุคคล หรือ ตลอดชีพ ฉบับจริง(พร้อมสำเนา)
4. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป (ซึ่งถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
5. สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ - สกุล, ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
3. ขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตขับขี่
เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมแล้ว มาถึงขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตขับขี่ แต่ก่อนดำเนินการใดๆ ต้องมีคิวอบรมก่อน โดยสามารถจองคิวอบรม ตาม ขั้นตอนการจองคิวอบรมในการสอบใบขับขี่ใหม่
เมื่อผ่านขั้นตอนจองคิวอบรมใบขับขี่แล้ว จากนั้นจะเป็นการยื่นเอกสารหลักฐานประกอบคำขอให้กับเจ้าหน้าที่ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและลงทะเบียนรับ จากนั้นก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปADVERTISEMENT
3.1 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย สำรวจตัวเองว่าเราบกพร่องด้านไหนบ้างหรือไม่ ก่อนได้รับการทดสอบ ได้แก่ การทดสอบการมองเห็นสี ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า เมื่อเห็นสีไฟจราจร
3.2 เข้ารับการอบรมความรู้ เราจะได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เครื่องหมายพื้นทาง ป้ายบังคับ ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ มารยาทและจิตสำนึกในการใช้รถ เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย การบำรุงรักษารถ รูปภาพจราจรและการรับรู้สถานการณ์อันตราย
ชนิดขอรับใบขับขี่ อบรม (ชม.)
*ยื่นก่อนใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 90 วัน อบรม 1 ชั่วโมง
3.3 สอบภาคทฤษฎี (ทดสอบข้อเขียนผ่านระบบ E-exam ) เป็นการทดสอบข้อเขียนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกว่า E-exam (Electronic examination) จำนวน 50 ข้อ ต้องได้ 45 ข้อขึ้นไป เกณฑ์ผ่าน 90%
3.4 สอบภาคปฏิบัติ (ทดสอบขับรถ) หากเรามีการเตรียมความพร้อมก่อนทดสอบขับรถ ฝึกหัดตามท่าทดสอบต่างๆ ความมั่นใจในการเข้าสอบภาคปฏิบัติ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
4.ชำระค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่
- อายุของผู้ขอรับใบขับขี่ ชนิดต่างๆ
- ชนิดขอรับใบขับขี่ อายุผู้ขอรับใบขับขี่
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ชั่วคราว (ไม่เกิน 110 ซีซี) อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว
- ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว
- ใบขับขี่รถบดถนน
- ใบขับขี่รถแทรกเตอร์
- ใบขับขี่รถชนิดอื่นๆ (ตามมาตรา 43) อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
- ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ
- ใบขับขี่รถยนต์สามล้อสาธารณะ อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปีบริบูรณ์
นอกจากนี้แล้ว คุณสมบัติขอผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่ควรมีความรู้ความสามารถในการขับรถ ปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเห็นว่าไม่สามารถขับรถได้ ไม่มีโรคประจำตัวที่ก่อให้เกิดอันตรายในขณะขับรถ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
2.เอกสารประกอบทำใบอนุญาตขับขี่
ชนิดใบขับขี่ เอกสารหลักฐาน
ขอรับใบขับขี่ชนิดชั่วคราว (ขอใหม่)
1. บัตรประชาชนฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
2. ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 30 วัน)
ขอรับใบขับขี่รถส่วนบุคคล(เปลี่ยนชนิดชั่วคราวเป็นชนิด 5 ปี)
*ยื่นก่อนใบขับขี่หมดอายุได้ไม่เกิน 60 วัน
1. บัตรประชาชนฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
2. ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 30 วัน)
3. ใบขับขี่เดิมชนิดชั่วคราว (ที่ยังไม่หมดอายุ พร้อมสำเนา แล้วแต่กรณี)
ขอต่อใบขับขี่รถส่วนบุคคล(ต่อ 5 ปี เป็นชนิด 5 ปี)
*ยื่นก่อนใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 90 วัน
1. บัตรประชาชนฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
2. ใบขับขี่เดิม (หรือใบแทน)
ขอรับใบขับขี่ระหว่างประเทศ
1. บัตรประชาชนฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
2. หนังสือเดินทาง เล่มที่ใช้ในการเดินทาง ประวัติหน้าที่แก้ไขฉบับจริง (พร้อมสำเนา)
3. ใบขับขี่รถส่วนบุคคล หรือ ตลอดชีพ ฉบับจริง(พร้อมสำเนา)
4. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป (ซึ่งถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
5. สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ - สกุล, ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
3. ขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตขับขี่
เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมแล้ว มาถึงขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตขับขี่ แต่ก่อนดำเนินการใดๆ ต้องมีคิวอบรมก่อน โดยสามารถจองคิวอบรม ตาม ขั้นตอนการจองคิวอบรมในการสอบใบขับขี่ใหม่
เมื่อผ่านขั้นตอนจองคิวอบรมใบขับขี่แล้ว จากนั้นจะเป็นการยื่นเอกสารหลักฐานประกอบคำขอให้กับเจ้าหน้าที่ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและลงทะเบียนรับ จากนั้นก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปADVERTISEMENT
3.1 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย สำรวจตัวเองว่าเราบกพร่องด้านไหนบ้างหรือไม่ ก่อนได้รับการทดสอบ ได้แก่ การทดสอบการมองเห็นสี ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า เมื่อเห็นสีไฟจราจร
3.2 เข้ารับการอบรมความรู้ เราจะได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เครื่องหมายพื้นทาง ป้ายบังคับ ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ มารยาทและจิตสำนึกในการใช้รถ เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย การบำรุงรักษารถ รูปภาพจราจรและการรับรู้สถานการณ์อันตราย
ชนิดขอรับใบขับขี่ อบรม (ชม.)
- สำหรับใบขับขี่ชนิดชั่วคราว (ขอใหม่) อบรม (ไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง)
- สำหรับใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ และรถยนต์สามล้อสาธารณะ (ขอใหม่) อบรม 5 ชั่วโมง
- สำหรับรถจักรยานยนต์สาธารณะ อบรม 3 ชั่วโมง
- สำหรับขอต่อใบขับขี่รถส่วนบุคคล (ต่อ 5 ปี เป็นชนิด 5 ปี)
- สำหรับขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ
- รถยนต์สามล้อสาธารณะ หรือรถจักรยานยนต์สาธารณะ
*ยื่นก่อนใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 90 วัน อบรม 1 ชั่วโมง
3.3 สอบภาคทฤษฎี (ทดสอบข้อเขียนผ่านระบบ E-exam ) เป็นการทดสอบข้อเขียนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกว่า E-exam (Electronic examination) จำนวน 50 ข้อ ต้องได้ 45 ข้อขึ้นไป เกณฑ์ผ่าน 90%
3.4 สอบภาคปฏิบัติ (ทดสอบขับรถ) หากเรามีการเตรียมความพร้อมก่อนทดสอบขับรถ ฝึกหัดตามท่าทดสอบต่างๆ ความมั่นใจในการเข้าสอบภาคปฏิบัติ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
4.ชำระค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่
การขอรับใบอนุญาตขับรถ หรือใบขับขี่ในปัจจุบันมีขั้นตอนที่ผู้ขอรับควรจะศึกษาให้เข้าใจเสียก่อน หลายครั้งที่มีผู้ขอรับใบขับขีที่เดินทางมายังกรมการขนส่งทางบกโดยไม่ได้ทำการจองคิวเอาไว้ ซึ่งทำให้หลายๆคนไม่สามารถทำการเข้ารับการทดสอบในวันนั้นๆได้ เนื่องจากมีผู้สมัครเกินกำหนดในแต่ละวันนั่นเอง ซึ่งขอแนะนำให้ผู้ที่จะขอรับใบขับขี่ติดต่อจองคิวผ่านระบบออนไลน์เสียก่อนที่ http://ebooking.dlt.go.th/ ซึ่งล่าสุดทราบมาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนใบอนุญาตว่าขณะนี้มีคิวจองยาวเป็นเดือนๆเลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละพื้นที่ของสำนักงานขนส่งจะมีความสามารถในการรับคิวในแต่ละวันได้ไม่เท่ากัน จึงขอรวบรวมจำนวนโควต้าผู้ขอรับใบขับขีในสำนัก งานขนส่งกรุงเทพฯพื้นที่ต่างๆมาให้โดยสังเขป ดังนี้
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล)
เปิดรับคำขอรับใบขับขี่ได้ไม่เกิน 100 คน/วัน
หมายเลขติดต่อ 0-2415-7337 ต่อ 204-205
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (ถนนสวนผัก ตลิ่งชัน)
เปิดรับคำขอรับใบขับขี่ได้ไม่เกิน 50 คน/วัน (อบรมวันพุธและวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ เว้นวันหยุดราชการ)
หมายเลขติดต่อ 0-2433-4773
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 62/1)
เปิดรับคำขอรับใบขับขี่ได้ไม่เกิน 60 คน/วัน
หมายเลขติดต่อ 0-2333-0035
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (ถนนสุวินทวงศ์ หนองจอก)
เปิดรับคำขอรับใบขับขี่ได้ไม่เกิน 100 คน/วัน
หมายเลขติดต่อ 0-2543-5512
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร)
เปิดรับคำขอรับใบขับขี่ได้ไม่เกิน 100 คน/วัน
หมายเลขติดต่อ 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือสอบถาม 1584
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร)
เปิดรับคำขอรับใบขับขี่ได้ไม่เกิน 100 คน/วัน
หมายเลขติดต่อ 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือสอบถาม 1584
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น